ม่อน พรวสุ นักศึกษาเภสัชฯ ม.วลัยลักษณ์ เล่าประสบการณ์ฝึกงานและทำวิจัยที่ มหาวิทยาลัย Yokohama University of Pharmacy ประเทศญี่ปุ่น

Facebook
Twitter
LinkedIn

สวัสดีครับ ผมชื่อนายพรวสุ พงศ์ธีระวรรณ (ม่อน) นักศึกษาสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ ชั้นปีที่ 6

ผมได้มีโอกาสไปฝึกงาน และร่วมทำวิจัยที่มหาวิทยาลัย Yokohama University of Pharmacy ที่ประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ทำให้ผมเกิดความสนใจและตัดสินใจไปฝึกงานที่นี่เนื่องมาจากว่า มหาวิทยาลัย Yokohama University of Pharmacy เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ซึ่งเปิดสอนทั้งทางด้านเภสัชบริบาล และเภสัชอุตสาหกรรม จึงทำให้ผมอยากไปเรียนรู้ครับว่านักศึกษาเภสัชศาสตร์ที่ประเทศอื่นๆ เขาเรียนรู้อะไรกันบ้าง รวมถึงบทบาทเภสัชกรในประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเฉพาะหรือมีความแตกต่างกับบทบาทของเภสัชกรของประเทศไทยอย่างไรบ้าง  เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนา และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้

 ประสบการณ์ในการฝึกงานครั้งนี้ของผมนอกจากจะได้มีโอกาสทำวิจัยร่วมกับทางมหาวิทยาลัย Yokohama University of Pharmacy ยังได้มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานทางด้านเภสัชศาสตร์ที่โรงพยาบาลแผนปัจจุบัน Shonan Kamakura General Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโรงพยาบาล Kitasato University Kitasato Institute Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแบบแพทย์แผนตะวันออก ที่มีการนำศาสตร์การวินิจฉัย, รักษา รวมถึงการจ่ายยาตามแพทย์แผนตะวันออกอย่างครบวงจร รวมถึงเป็นมหาวิทยาลัยของแพทย์และเภสัชอีกด้วย สำหรับทางด้านเภสัชอุตสาหกรรมได้มีโอกาสเข้าชมโรงงานเครื่องสำอาง Pola R&M ที่ Yokohama city และโรงงานผลิตยาสมุนไพร Tsumura Coporation ซึ่งผลิตยาสมุนไพรที่มีชื่อเสียงนอกจากจะส่งขายยาสมุนไพรทั่วญี่ปุ่น และมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ศึกษาถึงประวัติความเป็นมาอีกด้วย  ประสบการณ์ในการมาญี่ปุ่นในครั้งนี้จึงทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเภสัชกรในประเทศญี่ปุ่นอย่างรอบด้าน  จึงทำให้ดูเหมือนว่าเวลาที่ผมอยู่ที่นั่นมันผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก

สำหรับการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นนั้น ในช่วงแรกต้องปรับตัวเล็กน้อยเพราะตัวผมเองไม่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ รวมถึงวัฒนธรรมที่ต่างออกไป ทำให้ช่วงแรกอาจจะเป็นอุปสรรคบ้าง แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่หนักหนามากนักเพราะมีทั้งเพื่อนๆและอาจารย์ที่ญี่ปุ่นคอยช่วยเหลือ และมีกิจกรรมให้ทำอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทำอาหารไทย เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านญี่ปุ่น หรือ การเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น ทำให้การไปฝึกงานครั้งนี้ไม่รู้สึกเหงา

ดังนั้นในการมาฝึกงานในครั้งนี้ผมจึงได้พัฒนารอบด้าน  ทั้งด้านเภสัชกร  ด้านศิลปวัฒนธรรม ได้เรียนรู้วินัยของคนที่ประเทศญี่ปุ่น  สภาพแวดล้อม, สังคม, มิตรภาพ และได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย การเดินทางในครั้งนี้ผมยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการรับมือกับพายุ Hagibis ซึ่งเป็นพายุที่ไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าผมในตอนนั้นรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก แต่คนที่นี่กลับไม่ตื่นตระหนก แต่กลับมีสติและมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ทำให้การฝึกงานในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การออกไปเรียนรู้ถึงการทำงานและบทบาทของเภสัชกร แต่ยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต และเปิดมุมมองด้านความคิดและการใช้ชีวิตอีกด้วย

ซึ่งถ้ามาคิดๆดูแล้วประสบการณ์เหล่านี้ผมไม่สามารถบอกเล่าได้หมดต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง อยากฝากถึงน้องๆในปีหน้าถ้าหากได้มีโอกาสไปเปิดประสบการณ์การฝึกงานที่ต่างประเทศ ผมคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากจะได้ไปฝึกพัฒนาศักยภาพตัวเองแล้ว ยังได้เห็นบทบาทวิชาชีพในประเทศอื่นๆอีกด้วย และนอกจากนั้นผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เรียนรู้มานั้นสามารถนำมาปรับและนำกลับมาใช้ให้เหมาะสมกับการทำงานเราในอนาคตได้ครับ